แมวพูดไม่ได้แต่เราสามารถสังเกตอาการเขาได้ ว่ารู้สึกอย่างไร

เลี้ยงสัตว์

เรื่องเล็กๆของแมวที่เราไม่ควรพลาด

เพื่อนข้างกายของใครหลาย ๆ คนก็อาจจะเป็นสัตว์เลี้ยงอย่างน้องแมว ซึ่งในชีวิตประจำวันนั้นเราจะต้องอยู่กับสัตว์เลี้ยงของเราไม่ได้ตลอดเวลา ไม่ใช่ทุกวันว่าเราจะมีเวลานั้นให้กับสัตว์เลี้ยงแบบ 100% เพราะฉะนั้นไม่ว่าสัตว์เลี้ยงของเราจะเป็นอะไร เราไม่มีทางสามารถรู้ได้ในทันที หากเราไม่มีการสังเกตอาการและดูพฤติกรรมของสัตว์เลี้ยง ว่ามีอะไรเปลี่ยนไปบ้างหรือเปล่า ก็อาจทำให้พลาดบางสิ่งบางอย่างได้ ซึ่งข้อสังเกตของน้องแมวนั้นว่ากำลังอยู่ในสภาวะที่ปกติหรือป่วย สามารถสังเกตอาการได้ไม่ยากนักโดยมีพฤติกรรมหลัก ๆ 6 ข้อดังต่อไปนี้ ที่ผู้เลี้ยงสัตว์ทุกคนสามารถสังเกตกันได้ด้วยตัวเอง

ข้อสังเกตว่าน้องเหมียวกำลังป่วยอยู่หรือเปล่า

1. พฤติกรรมเปลี่ยนไป

แมวซึม ไม่สดใสร่างเริงเหมือนแต่ก่อน ทั้งที่สภาพแวดล้อม ของเล่น ทุก ๆ อย่างยังเหมือนเดิม หรือการที่ชอบซ่อนตัวอยู่ตามซอกหลืบจากที่เคยเป็นสายเที่ยว เดินบ่อย เดินเก่ง เดินไปทั่ว หรือแม้แต่การที่แมวเลียขนที่เดิมซ้ำ ๆ อยู่ตรงนั้นบ่อย ๆ ซึ่งสาเหตุของพฤติกรรมที่เปลี่ยนอาจเป็นเพราะน้องแมวอาจมีอาการเจ็บ ป่วย หรือไม่สบายอะไรสักอย่างก็เป็นได้

2. กินน้ำและอาหารไม่เหมือนเดิม

อยู่ดีก็เกิดอาการเมินใส่อาหารโปรด มีสาเหตุมาจากนเองแมวอาจกำลังป่วยอยู่ หรือหากชามน้ำที่วางไว้พร่องเยอะไปมากกว่าทุกวันจนผิดสังเกต บวกกับอาการขับถ่ายปัสสาวะปกติ นั่นก็อาจเป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงโรคเบาหวาน โรคไต หรือโรคเกี่ยวกับฮอร์โมนได้เหมือนกัน

3. ขับถ่ายไม่ปกติ

หากพบว่าน้องแมวมีอาการอึแข็งกว่าปกติ หรืออึเหลว ถ่ายมีเลือดปน มีสิ่งแปลกปลอม ต่าง ๆ ที่แปลกไปจากเดิม หรือมีอาการเบ่งปัสสาวะ ปัสสาวะเยอะ หรือไม่มีปัสสาวะออกมาเลย อาการเหล่านี้บ่งบอกว่าน้องแมวของเราอาจกำลังเป็นโรคอะไรอยู่ก็ได้ แต่สัญญาณที่มากับกระบะทรายนี้แหละที่บอกว่ากำลังเกิดปัญหาเกี่ยวกับระบบขับถ่ายของน้องแมวอยู่ ต้องรีบไปพบแพทย์แล้วเพื่อให้รักษาอาการขับถ่ายไม่ปกตินี้

4. ขนหยาบ หนังตั้ง

อาจจะเป็นสัญญาณของการขาดน้ำ ถ้าลองลูบขนดูแล้วพบว่าขนหยาบกระด้าง ไม่ลื่น นั้นก็แปลว่าน้องแมวป่วยอยู่ หรือขาดสารอาหารที่ช่วยบำรุงร่างกาย เช่น โอเมก้า 3 และ 6 รวมทั้งวิตามิน E และ A เราสามารถหาอาหารที่ข่วยในเรื่องของการแก้ขนหยาบนี้ได้ โดยมีสารอาหารและวิตามินแบบครบถ้วน เลือกอาหารที่มีประโยชน์ให้แก่น้องแมว

5. สีเหงือกไม่เหมือนเดิม

หากเหงือกมีสีแดงกว่าปกติ จนเขียวคล้ำ นั่นเป็นสัญญาณอันตรายที่บอกว่าน้องแมวขาดออกซิเจน หรือโดนสารพิษได้ แตีถ้าสีเหงือกของน้องแมวปกติจะต้องเหงือกมีสีชมพู หรือหากเหงือกมีสีซีดเกินไป อาจแสดงได้ว่าน้องแมวอาจมีปัญหาเลือดจาง หรือมีระบบไหลเวียนเลือดไม่ปกติ

6. ผอมไป อ้วนเกิน

เมื่อน้องแมวน้ำหนักลดลงแบบไร้สาเหตุที่ชัดเจน นั่นหมายความว่าน้องแมวกำลังสูญเสียมวลกล้ามเนื้อ หรือมีระบบการเผาผลาญของร่างกายที่ผิดปกติไป ซึ่งอาจเป็นโรคที่เกี่ยวกับฮอร์โมน หรือหากว่าน้องแมวที่อ้วนเกินไปก็อาจจะเสี่ยงต่อภาวะโรคเบาหวาน รวมทั้งปัญหาข้อและกระดูกได้นั่นเอง

ไวต่อความเปลี่ยนไป

ร่างกายของน้องแมวนั้นก็มีความเหมือนของคนเรา ที่ต้องมีการเจ็บไข้ได้ป่วย มีไม่สบายกันบ้าง ซึ่งหากว่าเราสังเกตอาการและพฤติกรรมของน้องแมวอย่างเป็นประจำแล้วล่ะก็อาจทำให้การเจ็บป่วยนั้นไม่รุนแรงเท่าที่ควร เราจึงจำเป็นอย่างมากที่ต้องใส่ใจและสังเกตและรู้วิธีการดูแลและป้องกันการป่วยสัตว์เลี้ยงของเรา เพื่อไม่ให้น้องแมวของเรานั้นรู้สึกไม่สบายตัว ไม่สบายใจ พร้อมแล้วก็หมั่นสังเกตให้ไวต่อความเปลี่ยนแปลงในร่างกาย